ประวัติและการเปลี่ยนแปลง

ย่งฮั่วฮึ้ง สู่ กวงโภชนาเซนต์หลุยส์

ต่อมาประมาณ พ.ศ. 2504 ตอนนั้น เฮียกวง อายุประมาณ 11 ปี ได้ติดตามคุณพ่อ ไปช่วยงานสารพัด ตั้งแต่ล้างจาน เสริฟผ้าเย็น และ ได้ไต่เต้ามาเป็นเด็กเสริ่ฟอาหาร ยกโต๊ะแบกเตา ผู้ช่วยพ่อครัว ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีการแยกแผนกงานชัดเจน ซึ่งต้องทำหน้าที่ตั้งแต่ ไปจ่ายตลาดที่ตลาดเก่าเยาวราชต้องไปคัดเลือกของ เอง ไปแต่เช้าเพื่อให้ได้วัตถุดิบที่ดีที่สุค ทำอย่างนี้มาตั้งแต่คุณพ่อ จนถึงทุกวันนี้ เฮียกวงก็ยังต้องไปตลาดเองทุกเช้า ต้องดูแลเอาใจใส่รายละเอียด การซื้อ หาวัตถุดิบจำนวนมากด้วยตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าและแขกได้อาหารสด และ ดีที่สุด เมื่อกลับจากตลาด การเตรียมอาหาร ก็มี สมาชิกในครอบครัว ช่วย แล่ สับ ล้าง ต้ม ตีแป้ง นวดแป้ง ห่อขนมจีบ ตุ๋น ทอด นึ่ง แฮกึ้น หอยจ้อ เปาะเปี้ย

ส่วนการต้มล้าง หูฉลาม ตั้งแต่เริ่ม เปิดออกจากกระสอบ ต้องต้ม ล้าง ต้ม ตาก และอีกกว่า 10 ขั้นตอนกว่าจะเป็น ซุปหูฉลาม สุดยอดอาหาร

มาถึง พ.ศ. 2510 จึงได้ไปเรียนรู้และฝึกทำอาหารเพิ่มเติมกับญาติคนหนึ่งที่เป็นกุ๊กใหญ่ (เถ้าชิ่ว) อยู่ที่ ภัตตาคารยิ้มยิ้ม ในย่านเยาวราช ซึ่งถือว่ามีชื่อเสียงมากในสมัยนั้น หลังจากฝึกมีมือที่ภัตตาคารยิ้มยิ้ม ได้ระยะหนึ่ง จึงกลับมาประจำอยู่ที่ร้าน ช่วยงานคุณพ่อโดยมีหน้าที่ทำงาน ทุกอย่างในร้าน จนถึงประมาณ พ.ศ. 2518 ก็เลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นกุ๊กใหญ่ เต็มตัว ซึ่งในสมัยก่อน การขึ้นมาเป็นเถ่าชิ่วไม่ใช่เรื่องง่าย จะต้องผ่านชั้นตอนและการเคี่ยว ฝึกฝีมืออย่างหนัก ทุกอย่างจะต้องทำด้วย มือเอง ถ้าเรียกให้เข้ากับสมัยนี้ก็คงต้องบอกว่าเป็น “Homemade” อย่างแท้จริง จนถึงปัจจุบันกิจการผ่านมาหลายร้อนหนาวรวมเวลาแล้วกว่า 60 ปี สร้างกุ๊กไปหลายรุ่น และยังคงพัฒนาต่อไป ทั้งคุณภาพบริการ และ คุณภาพอาหารให้ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ